นายโชติ chaiyawut

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เสือดาวกินคน แห่ง Rudraprayag ตอนที่ 7 (ตอนจบ)


ข่าวที่สำคัญเเพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว และในช่วงสิบวันที่ผ่านมา ทุกๆ คนใน Garhwal 
ต่างก็เคยได้ยินเรื่อง ของเจ้าเสือดาวกินคน กับยาพิษ และเราหวังว่า เราจะกักขังมันไว้ได้ ในถ้ำ    
และเห็นได้ชัดว่าเสือดาวได้ฟื้นตัวจากยาพิษ  และหาทางออกจากถ้ำไปได้ และไปฆ่าคนได้อีกครั้ง

 เมื่อฉันกลับมาจากการไปตรวจดูที่ถ้ำ ในเช้าวันนั้น
 และหลังจากอาหารเช้า เราก็ขี่ม้าของ Ibbotson และพร้อมด้วยปืนไรเฟิลของเรา ออกเดินทางไปยังหมู่บ้าน
ที่มีรายงานว่าผู้หญิงคนนั้นถูกฆ่า .
หลังจากขี่ม้าไปตามถนนผู้แสวงบุญอย่างรวดเร็ว เราก็ไปตามทางที่ข้ามเนินเขาไปตามแนวทแยงมุม 
และระยะทางหนึ่งไมล์ตามเส้นทางนี้ ซึ่งเป็นที่ ที่เส้นทางจากหมู่บ้านมาบรรจบกัน มีสัญญาณของการต่อสู้  การดิ้นรน 
และกองเลือดจำนวนมาก
ผู้ใหญ่บ้าน  และญาติของเหยื่อ  กำลังรอเราอยู่ที่หมู่บ้าน และแสดงให้เราเห็นที่  ที่เสือดาวจับผู้หญิงคนนั้นไป 
ในขณะที่เธอกำลังปิดประตูบ้าน   มันโจมตีมาจากด้านหลังของเธอ จากจุดนี้  เจ้าเสือดาวลากเธอไป บนหลังของมัน ทั้งๆที่เธอยังไม่ตาย
มันลากเธอไปเป็นระยะทาง ๑๐๐ หลา หรือราว  90 เมตร  จนถึงทางแยกของถนน ซึ่งมันปล่อยตัวเธอลง และหลังจากการต่อสู้อย่างรุนแรง มันก็ได้ฆ่าเธอ ผู้คนในหมู่บ้าน   ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว   ขณะที่เธอถูกลากไปบนพื้น และขณะที่เธอกำลังดิ้นรนเพื่อยื้อชีวิตกับเสือดาว
 แต่คนอื่นๆกลับกลัวเกินกว่าจะช่วยเหลือเธอ
เมื่อผู้หญิงคนนั้นตาย เสือดาวได้คาบเธอขึ้นและพาเธอข้ามดินแดนรกร้าง ข้ามหุบเขาที่ลึกเข้าไป

 และขึ้นเนินไปอีก 200 หลา ที่นี่ไม่มีรอยลากแล้ว แต่รอยเลือดนั้นง่ายต่อการติดตาม และมันพาเราไปยังพื้นราบ 
กว้างสี่ฟุตและยาวยี่สิบฟุต ที่ด้านบนของแคบๆนี้มีตลิ่งตั้งฉากสูงแปดฟุต  มีต้น medlar แคระแกรนขึ้นอยู่ และที่ด้านล่างของแถบแคบ ๆ เนินเขาก็ขาดลงไปอย่างสูงชัน และบนนั้นก็มีพุ่มกุหลาบป่า ซึ่งเลื้อยขึ้นไปจนกลบต้น เมดลาร์ 
ร่างของเธอ นอนซุกตัวอยู่ระหว่างตลิ่งชันและพุ่มกุหลาบนั่น โดยให้ส่วนหัวแนบกับตลิ่ง มีร่องรอยของการกระชากเสื้อผ้าออก
จากร่างที่เปลือยเปล่าของเธอ  พร้อมๆกับมีกลีบกุหลาบสีขาวที่ร่วงหล่นจากเบื้องบน  เธอเป็นสาวผมยาว  อายุ ๗๐ ปี
การฆ่าที่น่าสงสารนี้ จะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของมัน  เจ้าเสือดาว  
และหลังจากเราพูดคุยกันสั้น ๆ 
อิบบอทสันก็ขี่ม้า กลับไปยัง รัดระประยัก เพื่อเอาสิ่งของที่เราต้องการ 
ขณะที่ฉัน ออกเดินทางไปพร้อมกับปืนยาวเพื่อดูว่าจะจัดการ กับเจ้าเสือดาวในเวลากลางวันได้หรือไม่
ส่วนนี้ของประเทศ  เป็นพื้นที่ใหม่สำหรับฉัน  และสิ่งแรกที่ต้องทำคือการตรวจตราพื้นที่  ซึ่งฉันเห็นบางส่วนแล้ว—
ในขณะอยู่ที่หมู่บ้าน—ว่าเนินเขาสูงชันจากหุบเหว  สูงราวห้าพันฟุต; ที่ความสูงประมาณ 2,000 ฟุต ของยอดเขา
ปกคลุมไปด้วยต้นโอ๊ก และป่าสนหนาทึบ ด้านล่างเป็นทุ่งหญ้า ที่เปิดกว้างประมาณครึ่งไมล์ และถัดไปก็เป็นป่าดงดิบ
บัดนี้ฉันไปถึงขอบทุ่งหญ้าและป่าละเมาะแล้ว  ฉันเดินไปรอบ ๆ ไหล่เขา และพบที่ลุ่มกว้างไกลอยู่ข้างหน้าฉัน
 ทอดยาวออกไปครึ่งไมล์ถึงถนนแสวงบุญ  ปรากฏชัดว่าในสมัยก่อน ที่นี่เคยเกิดเหตุ แผ่นดินถล่ม 
นอกเหนือความกดอากาศต่ำ ซึ่งกว้าง 100 หลาที่ด้านบนสุด และกว้างประมาณ 300 หลาตรงบริเวณที่กระทบกับถนน 
พื้นที่นี้เปิดโล่ง เป็นที่ลุ่ม และชื้นแฉะ มีต้นไม้ใหญ่จำนวนหนึ่ง  ข้างใต้เป็นป่าดงดิบที่หนาแน่น ที่ปลายบนสุดมีหน้าผาหิน
ที่ยื่นออกมา มีความสูงต่างกันตั้งแต่ยี่สิบถึงสี่สิบฟุต และยาวประมาณ 100 หลา  ครึ่งทางไปตามหน้าผานี้
เป็นร่องลึกกว้างสองสามฟุต ด้านล่างมีลำธารเล็กๆ ไหลริน เหนือโขดหินเป็นแถบป่าดงดิบแคบๆ  และเหนือนั้นอีกคือทุ่งหญ้าโล่ง
ฉันได้สำรวจพื้นที่อย่างระมัดระวัง เพราะฉันไม่ต้องการให้เจ้าเสือดาวนั่น—- รู้เท่าทันการมาของฉัน
 ก่อนที่ฉันจะเห็นมัน ตอนนี้จำเป็นต้องหาโดยคร่าวๆก่อนว่า  เสือดาวน่าจะนอนอยู่ที่ใด และเพื่อให้ได้ข้อมูลนี้ ฉันจึงกลับไปหาจุดที่มีการฆ่า

เราได้รับการบอกเล่า จากในหมู่บ้านว่า  เพื่อสว่างได้ไม่นานหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นถูกฆ่าตาย และเนื่องจากมันต้องใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการฆ่า   เสือดาว อุ้มเหยื่อของมันไป 400 หลา และกินส่วนหนึ่งของเธอ มีเหตุผลที่จะสันนิษฐานได้ว่า  
มันได้ออกจากจุดที่มันซ่อนร่างของเธอไปเมื่อช่วงเช้า   เนินเขาที่มันกำลังนอนอยู่นั้น มองเห็นได้จากหมู่บ้าน 
ซึ่งในชั่วโมงนี้จะต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างมาก เสือดาวที่ออกมาจากเหยื่อของมัน   จึงเป็นธรรมชาติมาก
 ที่จะต้องปกปิดไว้ให้มากที่สุด เมื่อพิจารณาจากสมมติฐานนี้ และเนื่องจากพื้นแข็งเกินไปที่  จะมีรอยเท้าของมัน ฉันจึงออกเดินไป  ตามเส้นทาง ที่ฉันคิดว่ามันได้เดินไป
เมื่อฉันวิ่งมาได้ครึ่งไมล์แล้ว และพ้นสายตาของหมู่บ้านจนใกล้ถึงที่ลุ่มแล้ว ฉันก็ดีใจที่พบว่า  ในพุ่มไม้นี่  
ฉันพบว่ามันนอนอยู่ที่นี่  มาหลายชั่วโมงแล้ว จากรอยเท้าของมัน  เมื่อออกจากจุดนี้ไป แสดงให้เห็นว่ามันเข้าสู่ที่ลุ่ม
ใต้หน้าผาหินไปประมาณห้าสิบหลา
เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง  ที่ฉันอยู่ในที่  ที่เสือดาวนอน เฝ้าดูพื้นที่เล็กๆ ของต้นไม้  และป่าทึบข้างหน้าฉัน ด้วยความหวังว่า
เจ้าเสือดาวจะเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆ  และบอกตำแหน่งของมันออกมา

หลังจากที่ฉันเฝ้าดูอยู่สองสามนาที ก็มีการเคลื่อนไหว ท่ามกลางใบไม้แห้ง แล้วก็ดึงดูดความสนใจของฉัน 
มีนกสองตัว เข้ามาเดินอยู่บนใบไม้แห้งพวกนั้น
- พวกมันเป็นผู้ให้ข้อมูล ที่น่าเชื่อถือที่สุด ในป่า และฉันหวังว่า จะได้ใช้ประโยชน์จากนกคู่นี้  เพื่อช่วยฉันค้นหาเสือดาว

แต่ก็ไม่มีเสียงอื่นๆออกมาอีก แต่ฉันเชื่อว่า  มันยังอยู่ที่นั่น  ฉันจึงตัดสินใจลองวิธีอื่น
โดยไม่ได้ออกมาในที่โล่ง มีแนวหนีตามธรรมชาติ  สองแนวสำหรับเสือดาว อันหนึ่งลงเนินไปทางถนนแสวงบุญ
 และอีกอันขึ้นเนินไป  การย้ายลงจากเนินเขาไป จะไม่เป็นประโยชน์แก่ฉัน แต่ถ้าฉันย้ายขึ้นไปบนเนินเขา มันจะขึ้นไปบนรอยแยกในหน้าผาหิน  เพื่อให้ได้ที่กำบังในพุ่มไม้  เหนือหน้าผาอย่างแน่นอน และในขณะที่มันทำเช่นนั้น ก็มีโอกาสพอ
ที่ฉันจะยิงมัน
เมื่อเข้าไปในที่ลุ่มด้านล่างเล็กน้อย ฉันเริ่มซิกแซกข้ามมันอย่างช้าๆ  เพราะพวกนก ยังอยู่บนพื้นด้านล่าง ห่างไปไม่กี่ฟุต 
และพวกมันจะแจ้งให้ฉันทราบ  เมื่อเสือดาวกำลังเคลื่อนไหว ฉันขึ้นไปที่ความสูง ประมาณสี่สิบหลา ในการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าข้ามที่ลุ่ม และ เมื่อเจ้านกสองตัวบินขึ้นด้วยความตื่นตระหนก ไปที่ต้นโอ๊กเล็ก ๆ และกระโดดไปมาบนกิ่งไม้อย่างตื่นเต้น 
พวกมันเริ่มส่งเสียงเตือนที่ชัดเจน  และดังกึกก้อง   ซึ่งได้ยินในเนินเขาเป็นระยะทางครึ่งไมล์
 ฉันถือปืนยาวพร้อมจะยิงในทันที ฉันยืนนิ่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเริ่มเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
พื้นดินที่นี่เปียกและลื่น และด้วยสายตาของฉันจับจ้องอยู่ที่รอยแยกด้านหน้า ฉันเดินเพียงสองก้าว
แล้วรองเท้าพื้นยางของฉันก็ลื่นบนพื้นเปียกๆนี่ ระหว่างที่ฉันพยายามจะกลับมายืนใหม่

เจ้าเสือดาวก็พุ่งขึ้นไปด้านบน   และมีฝูงไก่ฟ้าซึ่งแล่นสวน  ลงมาจากด้านบน ผ่านเหนือหัวของฉัน
ความพยายามครั้งที่สองของฉันล้มเหลว  เพราะมองไม่เห็นรอยแยกในหินข้างบนนั้น
ฉันกับอิบบอตสันนัดเจอกันที่หุบเขาโล่งๆ ตอนบ่ายสองโมง และก่อนเวลานั้นเล็กน้อย เขาก็กลับมาจาก รัดระประยัก พร้อมด้วยชายหลายคนถือของ  ที่เขาไปเอามา สิ่งเหล่านี้ประกอบด้วยอาหาร เครื่องดื่ม  และเพื่อนเก่าของเราโคมไฟ petromax ก็ถูกนำมาด้วย
หลังจากนั้น เราก็มาวางแผนกัน

อันดับแรก เราจะวางยาพิษกันอีกครั้ง   
แล้วก็วาง กับดักจิน ซึ่งเราได้อำพรางไว้อย่างดี
แล้วก็ทำกับแบบดักปืนผูกขึ้นมาด้วย
เราสร้าง มาชาน  จากไม้กระดานที่หามาจากหมู่บ้าน เราตั้งใจจะค้างคืนบนต้นนั้น เเละรอว่า ถ้าเจ้าเสือดาวมาติดกับดักจิน เราจะได้ไปดูมันได้ทัน
 แผนของเราคือในขณะที่อิบบอตสันจดจ่อ อยู่ที่ส่วนของเนินเขาตามที่เราคาดว่าเสือดาวจะมา
 ฉันจะเฝ้ามองไปทั่วเนินเขา ถ้าเราเห็นเสือดาว ฉันจะเสี่ยงที่จะยิง แม้ว่าจะต้องยิงในระยะที่ไกลสุด ที่ฉันมองเห็นได้ คือ 300 หลา
 เมื่อยังมีเวลากลางวันเหลืออยู่อีกสี่สิบห้านาที และในช่วงเวลานั้นเรายังคงตั้งใจมองหามัน—
เมื่อไม่มีแสงเพียงพอให้ยิงอีกต่อไป ฉันจึงวางปืนไรเฟิลลง โอกาสที่จะฆ่าเสือดาวในตอนกลาววันได้หมดลงแล้ว แต่ยังมีโอกาส
ที่กับดักอยู่อีก
ไม่นานหลังจากที่มืด ฝนก็เริ่มตก และฉันกระซิบกับ Ibbotson ว่า   ฉันกลัวว่ากับดักของเราจะเสียแผน ถ้าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของน้ำฝน  ที่ตกลงไปบนกับดักนั่น  กับ  การหดตัวของสายเบ็ดตกปลาที่ทำจากเส้นไหม ที่ผูกปืนไว้   เพราะเส้นไหมเปียก -
 -
 เเต่ต่อมา๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘ (เอาเสียงเสือดาวแบบสั้น)
 ก็มีเสียงคำรามอย่างดุร้ายและโกรธจัด  เสียงดังต่อเนื่องมาจาก ทิศทางของกับดัก  “เสือดาวกินคนแห่ง Rudraprarayag” ในที่สุดมันก็มาติดกำดักแล้ว
Ibbotson รีบกระโดดออกจาก Machan ในขณะที่ฉันเหวี่ยงตัวเอง  ลงจากกิ่งไม้    เราทั้งคู่ พร้อมกับตะเกียง Petromax 

ฉันครุ่นคิดและกลัวว่า ในคราวก่อนเมื่อเสือดาวติดกับดัก มันคำรามและคำรามอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
 ขณะที่การแสดงความโกรธครั้งนี้   มันดังขึ้นเพียงครู่หนึ่งแล้วก็เงียบไป ซึ่งถือว่าเป็นลางไม่ดี
เมื่อ อิบบอทสันจุดตะเกียงแล้ว  เราก็ออกเดินทางไป เมื่อเราไปถึงตลิ่งสูงและมองลงมา เราเห็นรู บนพื้นดิน แต่ไม่มีกับดักอยู่
 และเมื่อความหวังของเราใกล้จะมาถึง แสงเจิดจ้าของปิโตรแมกซ์ก็เผยให้เห็นกับดักนั่น—ฟันกับดักถูกปิดและว่างเปล่า 
ลงไปอีกสิบหลาที่เชิงเขา ร่างของหญิงนั้น ไม่ได้นอนเอาหัวชนกับฝั่งอีกต่อไป และเมื่อเห็นแวบหนึ่งก็พบว่า
มันถูกกินไปส่วนหนึ่งแล้ว
ความคิดของเราขมขื่นเกินกว่าจะแสดงออก  เมื่อเรากลับไปที่มาชาน  เราก็นอนค้างกันบนนั้น
เช้าตรู่ เราก็ออกเดินทางอีกครั้ง  และเรามี Patwari และผู้ชายจำนวนหนึ่งอยู่กับเรา เพราะถ้าฉันอยู่คนเดียว 
ฉันคงลังเลที่จะเล่าถึง   สิ่งที่ฉันจะบอกคุณในตอนนี้

เจ้าเสือดาวนั้นมันได้คอยดูเราอยู่ตลอดเวลา  มันรู้ว่าเราทำกับดักอะไรไว้บ้าง  และมันรู้ว่าเรารอมันอยู่ตรงไหน
มันมาจากทิศทางที่เราคาดไว้ว่ามันจะมา และเมื่อมาถึงพื้นราบแล้ว  จากนั้นมันจึงเข้าใกล้ร่างของหญิงนั้นจากด้านที่เราได้วาง
พุ่มไม้หนามไว้อย่างแน่นหนา มันดึงพุ่มไม้หนาม สามพุ่มนี้ขึ้นมา ทำให้มีช่องว่าง กว้างพอที่มันจะผ่านไปได้ 
จากนั้นจึงจับหลักไม้ที่ผูกปืน  มันได้ดันมันเข้าไปประมาณหนึ่งฟุต ซึ่งทำให้สายเบ็ดไหมหย่อนลง เมื่อทำอย่างนี้แล้ว 
มันก็เริ่มกิน โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัส กับสายเบ็ดที่เราผูกไว้กับตัวผู้หญิงคนนั้น  เราไม่คิดว่าจำเป็นต้องวางยาพิษที่ศีรษะหรือคอ สิ่งเหล่านี้ที่มันกินเข้าไปก่อน  แล้วมันค่อยๆกิน  อย่างระมัดระวัง—มันได้กินส่วนนั้นไปทั้งหมด  
หลังจากมันอิ่มแล้ว เสือดาวก็ออกจากตรงนี้ไป เพื่อหาที่หลบฝน และเมื่อมันทำเช่นนั้น 

สิ่งที่ผมกลัวก็จะเกิดขึ้นจริงๆ น้ำหนักของน้ำฝน บนกับดักที่วางไว้อย่างประณีต  ได้กดแผ่นที่ประกอบ เป็นไกดีดและปล่อยสปริงดีดขึ้นพอดีกับ ขณะที่เสือดาวก้าวข้ามกับดัก  และขากรรไกรใหญ่นั้นมาชนกันที่ด้านใดด้านหนึ่งของเหล็กกั้น   
หรือข้อเข่า ของขาหลังข้างซ้ายของมัน  แต่ในขณะเมื่อตอนที่นำกับดักขึ้นมาจาก รัดระประยัก คนแบกมัน ได้ทำมันตกลงไปที่หน้าผา และฟันซี่ยาวสามนิ้วนั่น ซี่หนึ่งก็หักออก และขาซ้ายของเสือดาวตัวนั้น  ก็ไปติดอยู่ตรงที่ฟัน ซี่ที่หักไปนี้พอดี  
ทำให้เกิดช่องว่างในชุดฟันของกับดัก แล้วมันก็ดึงขาของมันออกไปได้ในที่สุด

เหลือเพียงกระจุกขนและผิวหนังชิ้นเล็ก ๆของมันให้ดูเท่านั้น   
แม้ว่าการกระทำของเสือดาวจะดูเหลือเชื่อเพียงใด   อันที่จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่เราคาดหวังได้  จากสัตว์ที่กินคนมาแปดปีแล้ว 
มันหลีกเลี่ยงพื้นที่เปิด  และเข้าใกล้กับร่างของเหยื่อ ภายใต้ที่กำบัง   มันขจัดสิ่งกีดขวางที่เราสร้างไว้ได้  และการปฏิเสธเนื้อส่วนที่เราวางยาพิษไว้  ซึ่งมันคงจะได้กลิ่นของไซยาไนด์  ที่มันเคยกินเข้าไปจนต้องเดินเซ และกระหายน้ำอย่างมาก ในครั้งก่อน

คำอธิบายที่ฉัน  ได้ให้ไว้สำหรับ  การเสียหายของกับดักคือ ฉันมั่นใจ ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ
ที่เสือดาว บังเอิญอยู่เหนือกับดัก ในขณะที่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้มันหลุดออกไป
เรารื้อกับดักออก และรอจนกว่าญาติๆจะรื้อเอาสิ่งที่เหลืออยู่ของหญิงชราไปเผาศพแล้ว แล้วเราก็ออกเดินทางกลับ Rudraprayag 
๑๙
ความล้มเหลวของเราในการล่าเจ้าเสือดาวกินคนตัวนี้   โชคร้ายที่ขัดขวางไม่ให้ฉันได้รับโคมไฟได้ทันเวลา โชคร้ายที่ทำให้
 อิบบอทสันเป็นตะคริวที่ขาในวันนั้น จนทำให้มีเสียงดังขึ้นมา ก่อนที่ฉันจะได้ยิงมัน
 โชคร้ายที่ทำให้เสือดาวกินไซยาไนด์เกินขนาด และมันรอดไปได้  และในที่สุด ก็เป็นกับดักที่เสียหายอันนั้น

 ดังนั้นเมื่ออิบบอตสันกลับมา ที่เพารี หลังจากที่เราล้มเหลวในการฆ่าเสือดาว
เหนือร่างของเหยื่อวัยเจ็ดสิบปีของมัน 
ฉันก็เต็มไปด้วยความหวัง เพราะถือว่ามีโอกาสยิงเสือดาวได้ดีเท่ากับวันแรก ที่ฉันมาถึง ที่ Rudraprayag- 
ดีกว่าเมื่อก่อน  เพราะตอนนี้ฉันรู้ถึงความสามารถของสัตว์ที่ฉันจะล่าแล้ว

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก  นั่นคือการกักขัง เจ้าตัวกินคนไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำแห่งหนึ่ง  
 ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องที่ผู้คนบนฝั่งซ้ายของ Alaknanda ควรถูกเสือดาวโจมตี 
ในขณะที่ผู้คนบนฝั่งขวาปราศจากความเสี่ยงของการโจมตีดังกล่าว   รวมถึงเด็กชายที่ถูกฆ่าเมื่อสองวันก่อน ที่เราจะมาถึงนี่อีก
มีสามคนเพิ่งเสียชีวิตบนฝั่งซ้าย แต่ถึงกระนั้น การที่จะเปิดสะพานทั้งสองแห่ง และปล่อยให้เสือดาวข้ามไปทางฝั่งขวาได้
ก็จะเพิ่มความยากลำบากของฉันขึ้นไปอีก  ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจปิดสะพานอย่างไม่เต็มใจ 
เมื่อตัดสินใจปิดสะพาน ฉันจึงส่งคนไปเตือนชาวบ้านถึงอันตรายของพวกเขา และฉันได้นำคำเตือนไปยังหมู่บ้านต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่เวลาและความสามารถในการเดินของฉันจะทำได้ 
_________________________________________________________________________________________________
๒๐
ชายแก่ที่คอกหนาม ที่ฉันพบครั้งแรกๆของที่นี่  เขาได้เห็นแพะที่ดีที่สุดของเขา  ซึ่งใหญ่เกือบจะเท่ากับม้าเชทแลนด์
ซึ่งนอนตายอยู่ริมถนน และมันถูกเสือดาวตัวนั้นฆ่าตายอย่างป่าเถื่อน
พฤติกรรม  ของเจ้าสัตว์กินคนในคืนนั้น  แสดงให้เห็นนิสัย  ของเสือดาวที่เปลี่ยนไป  เมื่อมันกลายเป็นตัวกินคนและได้อยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างใกล้ชิด  มาเป็นเวลานานหลายปี
มีเหตุผลที่จะสันนิษฐานได้ว่า  เจ้าตัวกินคนได้รับความตกใจ  และมันตกใจอย่างมากจากการถูกงับด้วยกับดัก 
และท่าทางโกรธแค้นที่มันคำรามนั้นเป็นข้อพิสูจน์จริงๆ  บางคนคิดว่ามันคงจะหนีไปอยู่ในที่ไกลๆแล้ว
หลังจากโดนกับดัก และคงจะไม่กลับมาอีกหลายวัน   แต่จากการกระทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่า  มันยังคงอยู่ในบริเวณใกล้ๆ นี่เอง
๒๑
ฉันกับอิบบอตสันได้นั่งเฝ้าแพะตัวที่เสือดาวฆ่าในเวลาต่อมา   แต่เจ้าเสือดาวนั่นก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย       เหมือนเดิม
๒๒
และในคืนที่สี่ หลังจากนั้น ฉันได้ยินเสียงว่าเจ้าเสือดาว ได้ฆ่าสุนัขของโจวกิดาร์ ชายผู้ดูแลบังกาโล - เจ้าหมาตัวน้อยซึ่งเคยวิ่งออกมาทักทาย ฉันทุกครั้ง  ที่ฉันผ่านทางนั้น สุนัขนั้นปกติมันไม่ค่อยเห่า แต่คืนนั้นมันเห่ามาห้านาทีแล้ว แล้วเสียงเห่าก็จบลงด้วยเสียงร้องอย่างโหยหวนของมัน ตามมาด้วยเสียงตะโกนของโจวคิดาร์จากภายในบ้าน หลังจากนั้นก็เงียบไป 

พุ่มไม้หนามถูกรื้อออกจากซุ้มประตูและสะพานก็เปิด; แม้ว่าฉันจะวางนิ้วบนไกปืนตลอดทั้งคืน เสือดาวก็ไม่พยายามที่จะข้ามสะพานมาเลย
หลังจากที่มันฆ่าหมา และปล่อยให้มันนอนอยู่บนถนนแล้ว 
เสือดาวตั้วนั้น  ก็มาถึงหอคอย อีกห้าก้าวในทิศทาง  ที่มันกำลังจะเข้าไปบนสะพาน แล้วมันก็หันไปทางขวาและเดินขึ้นไปบนทางเดิน  มุ่งไปยังตลาดสดในระยะสั้นๆ มันก็กลับมา และขึ้นไปตามถนนแสวงบุญไปทางเหนือ 

สองวันต่อมา ฉันได้รับรายงานว่า มีวัวตัวหนึ่งถูกฆ่าตายในเย็นวันก่อน ห่างออกไปเจ็ดไมล์ตามถนนแสวงบุญ สันนิษฐานว่าวัวถูกเสือดาวนั่นฆ่าในคืนก่อนหน้า—คืนที่สุนัขถูกฆ่านั่นเอง—

มาโธ ซิงห์และชาวบ้านคนหนึ่ง ชี้ทางให้ฉัน ลงไปที่การฆ่านั้น  วัวถูกฆ่าตายในหุบเขาลึก ห่างจากถนนหนึ่งส่วนสี่ไมล์
และห่างจากแม่น้ำหนึ่งร้อยหลา ด้านหนึ่งของหุบเขามีหินก้อนใหญ่  ที่มีไม้พุ่มหนาทึบคั่นกลาง และอีกด้านมีต้นไม้เล็กๆ สองสามต้น ซึ่งไม่มีต้นไม้ใหญ่พอ ที่จะนั่งได้   ที่ใต้ต้นไม้และ ประมาณสามสิบหลาจากซากวัว มีก้อนหินที่มีโพรงเล็กๆ อยู่ที่ฐานของมัน 
ในโพรงนี้ ที่ฉันตัดสินใจ นั่งเฝ้าซากวัว
ทั้งมาโธ ซิงห์และชาวบ้านคัดค้านอย่างมาก ต่อการนั่งเฝ้าบนพื้นดินของฉัน แต่เนื่องจากนี่เป็นการฆ่าสัตว์ตัวแรก
ตั้งแต่ฉันได้มาถึงที่ Rudiaprayag ในสถานที่   ที่คาดว่าเสือดาวจะมาในชั่วโมงแรก —พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว -
ฉันไม่สนใจการคัดค้านเหล่านั้น  และส่งพวกเขากลับไปที่หมู่บ้าน
ที่นั่งของฉันแห้งและสบาย โดยหันหลังให้กับก้อนหินและพุ่มไม้เล็กๆ  ฉันมั่นใจว่าเสือดาวจะไม่เห็นฉัน 
และฉันน่าจะฆ่ามันได้ก่อนที่มันจะรู้ตัว ฉันเตรียมไฟฉาย  ใช่ ตอนนี้ ฉันมีไฟฉายแล้ว มันเพิ่งถูกส่งมาให้โดยรัฐบาล 
และมีมีดพก พร้อมด้วยปืนไรเฟิล
 ฉันรู้สึกว่า   จุดที่เงียบสงบแห่งนี้ โอกาสที่ฉันจะฆ่าเสือดาวตัวนั้น  ดีกว่าโอกาสอื่นๆ ที่ฉันเคยมีเสียอีก
โดยปราศจากการเคลื่อนไหว และจ้องมองไปที่โขดหินข้างหน้าฉัน  เวลาที่ฉันรอคอยก็มาถึงและกำลังผ่านไป แต่วัตถุที่อยู่ใกล้มือเริ่มเบลอและไม่ชัด เสือดาวมาช้ากว่าที่ฉันคาดไว้เล็กน้อย แต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันกังวล ฉันมีไฟฉายแล้ว ซากวัวนั่นอยู่ห่างจากฉันเพียงสามสิบหลา และฉันจะระมัดระวังในการยิง  และต้องแน่ใจว่า มันจะไม่กลายเป็นเสือลำบากไป 
ฉันพร้อมที่จะยิงในทิศทางใดก็ได้  ที่ได้ยินเสียงเพียงเล็กน้อย
การที่เสือดาวไม่ปรากฏตัว   เริ่มทำให้ฉันไม่สบายใจ เป็นไปได้ไหมว่า   จากที่ซ่อนเร้นอยู่ท่ามกลางก้อนหิน
ที่มันอาจจะเฝ้ามองฉัน  มานานหลายชั่วโมงแล้ว และตอนนี้มันกำลังเลียริมฝีปาก เพื่อรอที่จะฝังเขี้ยวในลำคอของฉันหรือเปล่า เพราะมันขาดเนื้อมนุษย์ไปนานแล้ว 
เป็นเวลาหลายชั่วโมงผ่านไปอีก แล้วฝนเม็ดใหญ่ก็เริ่มโปรยปราย และที่ซึ่งความเงียบงันอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ก็มีเสียงการเคลื่อนไหวอยู่รอบ ๆ โอกาสที่เสือดาวรอคอยมาถึงแล้ว ฉันรีบถอดเสื้อคลุมออก พันไว้รอบคอ ติดแขนเสื้อให้แน่น 
ตอนนี้ปืนไรเฟิลนั้นไร้ประโยชน์   ฉันยิงไม่ได้ เพราะฝนตกหนักเกินไป แต่อาจช่วยเบี่ยงเบนความสนใจได้ ดังนั้นเมื่อย้ายปืนไปยังมือซ้ายของฉัน ฉันจึงชักมีดออกมา
แล้วใช้มือขวาจับมันไว้อย่างดี มีดนี้เรียกว่ามีดแทง Afridi และฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นประโยชน์กับฉัน
เช่นเดียวกับที่มัน  เคยให้บริการแก่เจ้าของที่ล่วงลับของมันไปแล้ว เมื่อฉันซื้อมันจากร้านค้าของรัฐบาลที่ Hangu 
ในเขตชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือ  
คนขายบอกว่า  มันมีอดีตในคดีฆาตกรรมสามครั้ง เป็นที่ยอมรับว่า มีดนี้เป็นของที่ระลึกที่น่าสยดสยอง 
แต่ฉันก็ดีใจที่มีมันอยู่ในมือของฉัน  ในเวลานี้
เสือดาว ไม่ชอบฝนและมักหาที่หลบอยู่เสมอ แต่เสือดาวกินคนไม่ใช่เสือดาวธรรมดา และไม่รู้ว่ามันชอบหรือไม่ชอบอะไร
ตอนที่มาโธ ซิงห์กำลังจะจากไป เขาถามว่า ฉันตั้งใจจะนั่งนานแค่ไหน และฉันก็ตอบว่า 'จนกว่าฉันจะยิงเสือดาวได้' เมื่อฉันรออยู่นานก็ไม่เห็นมีอะไร   ฉันลุกขึ้นยืนและแบกปืนยาวขึ้นบนบ่า
แล้วเดินกลับ  

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เสือดาวกินคน แห่ง Rudraprayag ตอนที่ 3

เสือดาวกินคน แห่ง Rudraprayag ตอนที่ 2

เสือดาวกินคน แห่ง Rudraprayagตอนที่ 1 เมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๖๙

ฆ่าเสือดาวมือเปล่า เมื่อปี พ.ศ.2439 Carl Akeley

การฝึกดาบสองมือของนโม ตอน 9 ขวบครับ เมื่อ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐